ประเพณี :กินเถ้ากระดูกคนตาย

            ประเพณีแปลกๆนั้นมีอยู่ทั่วโลกเลยนะคะ และประเพณีแต่ละอย่างแต่ละอันนั้น็สร้างความฉงงให้กับคนที่ได้พบเจอเป็นอย่างมากเลยนะคะ และเมื่อไม่นานมานี้โลกของเราก็ได้ทำความรู้จักประเพณีชวนตะลึงของชาวยาโนมามิ ซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองแห่งผืนป่าอเมซอน ที่มีความเชื่อกินเถ้ากระดูกคนตาย เพื่อให้ผู้จากไปยังได้มีชีวิตต่อ  

 

                  แม้ว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาแล้วต้องตาย แต่ทว่าวัฒนธรรมและความเชื่อเกี่ยวกับความตายของผู้คนแต่ละพวกบนโลกใบนี้ต่างก็มีความแตกต่างหลากหลายกันไป ส่วนใหญ่เราคงคุ้นชินกับการเผาและการฝัง แต่ทว่าบนโลกในนี้ก็ยังมีบางวัฒนธรรมที่มีความเชื่อเกี่ยวกับความตายที่ซับซ้อนมากกว่านั้น และยังมีความแปลกประหลาด นั่นคือประเพณีของชนเผ่า "ยาโนมามิ" ชนเผ่าพื้นเมืองแห่งป่าดิบชื้นอเมซอน ที่มีประเพณีแปลกเพราะว่าการเอาเถ้ากระดูกคนตายมาทำซุป แจกจ่ายให้ทุกคนในชนเผ่าได้ดื่มกัน

                   เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการตายเกิดขึ้นในหมู่บ้านชาวยาโนมามิ ร่างและกระดูกของผู้ตายที่ถูกเผามอดไหม้จนกลายเป็นเถ้า ซึ่งจะถูกนำมาผสมปรุงเป็นซุปพิเศษ จากนั้นแล้วแบ่งปันกันกินในหมู่ครอบครัวเครือญาติ ตลอดจนชาวเผ่าคนอื่น ๆ ที่อาศัยอยู่ร่วมชุมชนกัน 

ที่มาของวัฒนธรรมกินเถ้ากระดูกผู้ตาย

                   ประเพณีนี้ สืบเนื่องมาจากความเชื่อของชาวยาโนมามิ ที่ว่าความตายนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ แต่ทว่าเป็นฝีมือจากพ่อมดหมอผีจากเผ่าที่เป็นปฏิปักษ์กัน ที่จะส่งวิญญาณชั่วร้ายมารังควานเหยื่อในชนเผ่าของตน และเพื่อป้องกันไม่ให้ถูกผีร้ายโจมตี คนในเผ่าก็ต้องรีบกำจัดร่างของเหยื่อไปให้สิ้น

                   ดังนั้น เมื่อมีคนตายชาวยาโนมามิจึงเลือกที่จะทำศพด้วยการเผา แทนที่จะเป็นการฝัง จากนั้นก็นำเถ้ากระดูกของผู้ตายมาแบ่งกันดื่มกิน โดยเชื่อว่าการกินเถ้ากระดูกคนตายเป็นการรักษาจิตวิญญาณของผู้ที่จากไปให้ยังมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างปลอดภัยอีกตราบนานเท่านานนั่นเอง

                    แต่ประเพณีว่าแปลกแล้วกรรมวิธีที่ทำยิ่งแปลกเข้าไปอีกนะคะ เพราะว่าก่อนที่จะมีพิธีเผาศพ จะต้องนำร่างของผู้ตายจะถูกนำไปวางไว้กลางป่าในบริเวณที่ใกล้กระท่อม หรือว่าที่อยู่ของหมอผี จากนั้นแล้วทิ้งไว้ให้เน่าเปื่อยตามธรรมชาติ 30-45 วัน จากนั้นค่อยเก็บร่างมาประกอบพิธีเผา เมื่อเผาเสร็จแล้วก็เก็บเถ้ากระดูกมาผสมกับซุปที่หมักขึ้นจากกล้วย ซึ่งผู้คนในชุมชนจะมาล้อมวงชุมนุมกันพร้อมหน้า และก็จะเวียนดื่มซุปละลายเถ้ากระดูกที่ถูกตักใส่ภาชนะที่ทำมาจากน้ำเต้ากันให้หมดครบทุกคนภายในโอกาสนั้น 

                   แต่ถ้าหากคนตายเป็นชาย และถูกคนนอกเผ่าฆ่า พิธีจัดการศพก็จะแตกต่างออกไปจากข้อมูลในข้างต้น โดยจะนำร่างของผู้ตายจะถูกวางทิ้งไว้ให้ย่อยสลายนานร่วมปี เพื่อให้แน่ใจว่าความแค้นจากการถูกฆ่านั้นจะได้รับการสะสางแล้วอย่างหมดจด

ผสานกับความเชื่อของชาวเผ่าที่ว่า ดวงวิญญาณของผู้ตายจะไม่สามารถเข้าสู่โลกแห่งวิญญาณได้หากร่างเนื้อยังคงไม่หายไปจากโลกมนุษย์

                    และเมื่อครบเวลาที่ศพย่อยสลายไปแล้ว เถ้ากระดูกของชายผู้ตาย ก็จะถูกนำมาทำซุปแบ่งปันกันดื่มกิน โดยคราวนี้จะแจกเฉพาะในหมู่ชาวเผ่าผู้หญิงเท่านั้นผู้ชายไม่กิน เพียงเท่านี้ก็เป็นอันได้ส่งให้วิญญาณของผู้ล่วงลับได้เข้าสู่โลกแห่งวิญญาณอย่างสงบและสวัสดิภาพแล้วนะคะ เรียกได้ว่าประเพณีนี้เป็นที่น่ากลัวและน่าสยดสยองมากๆเลยนะคะ ดีนะคะที่เมื่อไทยเราไม่มีประเพณีแบบนี้ให้เห็นนะคะ